10254 จำนวนผู้เข้าชม |
ซี เอส เอ กรุ๊ป ได้รับเกียรติจาก Intercoiffure Thailand (ICD Thailand) ให้เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ “Smart Salon Smart Services : สร้างธุรกิจเสริมสวย ให้เติบโตยั่งยืน” เพื่อให้ธุรกิจซาลอนเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในเมืองไทย
เราอาจจะพอได้ยินมาบ้างกับคำว่า Thailand 4.0 แต่อาจจะไม่เข้าใจความหมายของมันถ่องแท้ ซึ่งวิทยากรท่านแรก”ดร. วิฑูรย์ สิมะโชคดี” ประธานมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวถึง Thailand 4.0 ว่า “นโยบายนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด แต่เป็นนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศ ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผล” อาจจะฟังดูเข้าใจยากใช่ไหมคะ ซี เอส เอ กรุ๊ป จะมาอธิบายให้ง่ายขึ้นค่ะ
หากลองเปรียบเทียบกับยุคก่อน ลูกค้าหนึ่งท่านจะเข้ามาทำผมในร้านทำผมต้องโทรเข้ามาสอบถามและจองวัน สำหรับการเดินทางก็ต้องโทรสอบถามเส้นทางเพื่อมาที่ร้าน และเมื่อมาถึงร้านก็ต้องเสียเวลาในการทำทรีทเมนต์ต่อหนึ่งครั้งไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง หากซาลอนยังดำเนินธุรกิจแบบเดิม นอกจากจะบริการลูกค้าได้น้อยลงแล้ว รายได้ของเราก็จะน้อยลงด้วย ซึ่ง Thailand 4.0 จะเป็นการดำเนินธุรกิจที่ตรงข้ามกับตัวอย่างด้านบน เนื่องจากปัจจุบันเป็นยุคแห่งการเชื่อมต่อจึงส่งผลให้พฤติกรรมการใช้เงินของลูกค้าจึงเปลี่ยนไป คำถามคือทำอย่างไรให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและง่ายขึ้น แน่นอนว่าเราต้องมองหาทรีทเมนต์ที่ให้ผลลัพท์เท่าเดิมหรือดีกว่าแต่ใช้เวลาน้อยลง หาแอพลิเคชั่นที่คุณลูกค้าสามารถจองคิวล่วงหน้าได้ หรือแม้กระทั่งสามารถจ่ายเงินผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-banking) ซึ่งสัมมนา Smart Salon Smart Services ได้ให้แนวความคิดสำหรับซาลอนเพื่อดำเนินธุรกิจในยุค Thailand 4.0 ดังนี้
1. ทำน้อยได้มาก : แทนที่เราจะมองหาแบรนด์ดังเพื่อทำให้ร้านเราเป็นที่รู้จัก เราอาจจะต้องกลับมาใส่ใจในเรื่องบริการมากขึ้น เพราะการบริการเป็นสิ่งที่สะท้อนคุณค่า( Value)ของร้านทำผมในปัจจุบัน หาจุดเด่นของร้านและมองหาแบรนด์ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณลูกค้าของเรา ทำอย่างไรเราถึงจะโดดเด่น แตกต่างและเป็นทางเลือกที่คุณลูกค้าต้องการ
2. นวัตกรรม : ลองสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ให้กับร้านทำผม เพื่อให้คุณลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งการสร้างสรรค์ในที่นี่ยังหมายถึง การต้อนรับลูกค้า การพรีเซนต์จุดเด่นของร้านและทำให้ลูกค้ามองเห็นผลงานของเราได้ง่ายขึ้น อาจจะทำเมนูออนไลน์บนสื่อโซเชียลที่รวบรวมผลงานแต่ละประเภทเพื่อที่ลูกค้ามั่นใจในการบริการของคุณมากขึ้น
3. เทคโนโลยี : คงยากที่จะปฏิเสธว่าปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราอาจจะต้องดึงเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ต้องยึดเทคโนโลยีที่ดีต่อลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นที่จับลอนสำเร็จรูปที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลามากขึ้น ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ปราศจากสารเคมีและใช้เวลาในการทำน้อยลง หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยี Virtual Mirror กระจกเสมือนที่มีการฉายภาพผู้ที่มาตัดผมลงบนหน้าจอ เพื่อให้สามารถทดลองเปลี่ยนรูปแบบทรง สีผมต่างๆ ให้เห็นได้ เป็นต้น"
มาถึงตรงนี้เจ้าของธุรกิจซาลอนอาจจะพอนึกออกแล้วว่า เราควรจะขับเคลื่อนซาลอนและปรับธุรกิจของเราไปในทิศทางไหน ส่วนใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ซี เอส เอ กรุ๊ปแนะนำให้คุณมองหาจุดแข็งของธุรกิจเป็นอันดับแรก เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง เทรนด์ธุรกิจเฉพาะทางนั้นดำเนินไปได้ดีมากขึ้นเพราะลูกค้าต่างมองหาร้านที่มีจุดแข็ง เช่น ร้านนี้เชี่ยวชาญด้านการดัดวอลลุ่มหรือบางร้านก็เชี่ยวชาญแค่การทำเล็บ จนปรับเปลี่ยนธุรกิจเป็นร้านทำเล็บแบบ Full Option ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจซาลอนท่านไหนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ซี เอส เอ กรุ๊ปยินดีให้คำปรึกษาและแบ่งปันข้อมูล ตลอดจนเป็นคู่ค้าที่พัฒนาซาลอนในโลกยุคดิจิตอลและ Thailand 4.0 ค่ะ
ประสบการณ์การเข้ารับบริการในร้านทำผมของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป ร้านทำผมต้องเตรียมรับมือให้ดี ดังที่คุณพิชัย อร่ามเจริญ นายกสมาคม intercoiffure Thailand ได้กล่าวไว้ว่า “เล็กหรือใหญ่ เก่าหรือใหม่ ไม่ใช่สูตรความสำเร็จอีกต่อไป แต่ความสำเร็จเกิดจากความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต”